เทคนิคการติด ลามิเนต 1
การเตรียมพื้นผิวเพื่อติดแผ่นลามิเนต โดยการขัดด้วยกระดาษทราย เพื่อเอาชั้นสีเดิมออก หากชั้นสีหนาเราอาจใช้น้ำยาเพื่อล้างชั้นสีออกก่อน อาจเป็นน้ำมันสน หรือ อื่น ๆ หลังจากนั้นทำการขัดจนชั้นสีออกหมด แล้วปัดทำความสะอาดให้ปราศจากฝุ่น
สำหรับการตัดแผ่นลามิเนตขนาดทั่วไปนั้นเราอาจใช้อุปกรณ์ได้หลายชนิดเช่น เลื่อยวงเดือน โต๊ะเลื่อย คัตเตอร์ สิ่ว หรือ เลื่อยมือที่มีความคม ถ้าแผ่นขนาดเล็กเราใช้คัตเตอร์ตัด โดยมีไม้บรรทัดนำตามรอย ที่กำหนด แล้วพับหัก การตัดด้วยคัดเตอร์เราจะกรีดลงบนด้านหน้าของแผ่นต้องระวังการลื่นไถล เราอาจใช้กระดาษเทป แปะลงบนด้านหน้าของลามิเนต แล้วตีเส้น ลงบนกระดาษเทปให้เป็นแนวที่ต้องการตัด จากนั้นกรีดคัตเตอร์ ที่มีใบมีดคม โดยใช้ไม้บรรทัดช่วยให้ตรงตามแนวป้องกันการลื่นไถลจากแนวได้ ลดรอยแตกเป็นเศษได้ จากนั้นพับหักเข้าหากัน ใช้แรงกดเบา ๆใบมีดต้องคม ในการตัดด้วย เลื่อยวงเดือนคุณต้องตัดด้านหลัง ส่วนถ้าตัดด้วยเลื่อยมือให้หงายขึ้น
ในการตัดลามิเนตนั้นเราจะตัดให้มีขนาดใหญ่กว่าขนาดจริงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ขาด แต่ที่เกินสามารถ ตริม ออกได้ ข้อควรระวังในการตัดก็คือ งานขนาดเล็ก ๆ คุณใช้คัตเตอร์ ที่มีใบมีดคม หรือเลื่อยมือที่ต้องมีใบเลื่อยที่ คมจริง ๆ เท่านั้น ส่วนการตัดมาก ๆ หรือยาว ๆ ให้ใช้ โต๊ะเลื่อย จะดีที่สุด เพราะมีใบที่ใช้สำหรับตัดลามิเนตโดยเฉพาะด้วย
ในการติดแผ่นลามิเนตเราใช้กาว ที่ใช้เฉพาะมีหลายยี่ห้อ หาซื้อตามร้านขายเครื่องมืองานไม้ หรือหาไม่ได้จริง ๆ กาวยางทั่วไปก็พอใช้ โดยต้องทาที่ชิ้นงานทึ่จะติด และที่ด้านหลังของแผ่นลามิเนต ปัญหาที่เรามักพบก็คือเมื่อทากาวแล้ว จะมีกาวที่จับเป็นก้อน ๆ คนที่เป็นช่างมือใหม่ ก็จะปล่อยให้แห้ง ไปเอง แต่สำหรับช่างมืออาชีพ ต้องหาอุปกรณ์สำหรับขูดขณะที่กาวยังไม่แห้ง ให้เกลี่ยออกไปจนเรียบ ไม่ให้เกาะเป็นก้อนโดยเด็ดขาด บางคนอาจใช้ แผ่นลามิเนตแผ่นเล็ก ๆมาตัดให้ตรง ใช้เกลี่ยได้ บางคนอาจให้เกรียงสำหรับกาว เล็ก ๆ ทำด้วยเหล็กที่ลบคมแล้ว เกลี่ยกาว ได้ดีกว่า เมื่อกาวเรียบสม่ำเสมอ จะทำให้การติดที่ราบรื่นสวยงาม ในการทิ้งกาวไว้ให้แห้ง ก่อนนำมาติดกันนั้นให้ดูเวลาจากข้างกระป๋องกาว ว่าให้ทิ้งไว้นานเท่าไหร่ เพราะถ้าทิ้งไว้นานเกิน ความแข็งแรงจะลดลงไปด้วย
เทคนิคการติด ลามิเนต 2
ในการติดแผ่นลามิเนตเข้ากับชิ้นงาน มีข้อควรระวัง คือ ต้องแน่ใจว่าติดตรง ไม่ผิดพลาด เพราะเมื่อ แผ่นลามิเนตสัมผัสกับผิวงานแล้ว แรงดูดระหว่างผิว จะสูงมาก 50-75 เปอร์เซ็น ของแรงดูดทั้งหมด ทำให้ดึงออกจากกันยาก ดังนั้นจึงต้องตรวจดูให้รอบคอบก่อนกดลงไปให้ติดกัน และเราต้องเริ่มจากด้านขอบด้านใดด้านหนึ่งก่อน โดยอาศัย แท่งไม้กลมเล็ก ๆ สะอาด ๆ ขั้นไว้ตามรูป จะช่วยให้การติดเที่ยงตรงไม่ผิดพลาด ดีขึ้น เมื่อเห็นว่าอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้วก็นำท่อนไม้ออกทีละชิ้นแล้วค่อย ๆ กดให้แผ่นลามิเนตติดกับชิ้นงาน การติดบริเวณขอบควรทากาวที่ผิวที่จะติดให้หนาซักสองรอบ เพราะเป็นบริเวณที่หลุดง่ายต้องให้แน่นหน่อย ปกติแล้วความหนาของกาวไม่ควรหนาเกินสองรอบ
ในการติดแผ่นลามิเนตกับผิวแนวดิ่งเราไม่ก็ไม่ต้องใช้ท่อนไม้ สามารถติดได้เลยโดยเริ่มจากล่างขึ้นบน หลังจากติดแผ่นเรียบร้อยให้ใช้ลูกกลิ้ง กลิ้งกดผิวแผ่นลามิเนตให้ติดแน่น เพื่อไล่ฟองอากาศ โดยมากเราจะเริ่มไล่จากตรงกลางออกริมเสมอ
สำหรับการต่อลามิเนตบนพื้นผิว ในกรณีที่แผ่นลามิเนตของคุณแผ่นเดียวไม่พอ ต้องมีการต่อ ให้เริ่มติดแผ่นใหญ่ก่อน จากนั้นที่ปลายขอบอีกด้านที่ต้องการต่อให้หาแผ่นกระดาษแวกบาง ๆ รองเอาไว้เพื่อไม่ให้ส่วนปลายนั้นติด จากนั้นก็ติดแผ่นที่ต้องการต่อ โดยติดจากด้านที่เหลือเข้าหารอยต่อจากนั้นใช้คัตเตอร์ตัดกรีดเป็นเส้นตรงโดยใช้ไม้บรรทัดช่วยหลังจากหักแผ่นบนทิ้งไปแล้วก็กรีดแผ่นล่างต่อตามแนวเดิม เมื่อหักทิ้งครบทั้งสองแผ่น ก็เอากระดาษแวกออกแล้วก็ใช้ลูกกลิ้งเพื่อกดให้สนิท ไล่ฟองอากาศ เราก็จะได้รอยต่อที่สมบูรณ์
เมื่อติดงานเสร็จสมบูรณ์เราก็จะทำการเก็บงานที่เหลือ แต่ก่อนอื่นคุณต้องทิ้งให้กาวแห้งดีแล้วเท่านั้น ค่อยทำการเก็บงาน มิฉะนั้น อาจทำให้ผิวเปิดออก และแก้ไขยาก หากเป็นช่างที่เครื่องมือน้อย อาจใช้สิ่วคม ๆ ขูดบริเวณส่วนเกินออก แต่แนะนำให้ใช้เครื่องมือเฉพาะคือ Trimmer หรือ Router ดีกว่า ค่อย ๆ Trim เอาส่วนเกินออก อย่ารีบเพราะจะทำให้แตกได้ เมื่อเสร็จงานก็ใช้ทินเนอร์เช็ดกาวส่วนเกินออก ระวังอย่าใช้ปริมาณมาก ให้ชุบผ้าพอชื้นแล้วเช็ดคราบกาวออก ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น